what tickets do you have available? คุณมีตั๋วอะไรเหลืออยู่บ้าง?

I'd like two tickets, please ฉันอยากได้ตั๋ว 2 ใบค่ะ/ ครับ

I'd like two tickets for ... ฉันอยากได้ตั๋ว 2 ใบ สำหรับ ...
tomorrow night คืนพรุ่งนี้
next Saturday วันเสาร์หน้า

I'd like four tickets to see ... ฉันอยากได้ตั๋ว 4 ใบ สำหรับดู ...

I'm sorry, it's fully booked ขอโทษด้วย, มันถูกจองหมดแล้ว
sorry, we've got nothing left ขอโทษนะ, เราไม่มีตั๋วทุกชนิดเหลือเลย

how much are the tickets? ตั๋วราคาเท่าไหร่?

is there a discount for ...? มีส่วนลดสำหรับ .. ไหม?
students นักเรียน
senior citizens ผู้สูงอายุ
the unemployed คนตกงาน

where would you like to sit? คุณอยากจะนั่งตรงไหน?

near the front ใกล้ด้านหน้า
near the back ใกล้ด้านหลัง
somewhere in the middle ที่ไหนก็ได้ตรงกลาง

หวังว่าเวลาเพื่อนๆเดินทางไปต่างประเทศ อยู่สนามบิน จะใช้ ประโยคพูดเหล่านี้เป็นภาษาอังกฤษได้นะครับ

and

as well as

yet 
but

for 
nor

or

ตัวอย่าง
pretty and intelligent 
quickly and beautifully
เชื่อวลีกับวลีเช่น
Going to a dance or to a movie
เชื่อมประโยคกับประโยคเช่น 
Her parents decided to postpone their trip to Los Angeles, for the 
weather was threatening.

หวังว่า คงไม่ งง กัน ใช่ไหมเอ่ยยยยยยยยยยยยยยยย

If you leave now, I'm sure you'll be caught in a traffic jam.
ถ้าคุณออกตอนนี้ ผมมั่นใจเลยว่าคุณต้องเจอการจราจรที่ติดขัดแน่

Please tell me the secret to make good jam.
ช่วยบอกผมเกี่ยวกับความลับในการทำแยมที่ดี

เพราะงั้นหลังจากนี้ อย่าออกเสียงผิดนะครับ^^

พรุ่งนี้เป็นวันสำคัญสำหรับฉันเพราะครูของฉันจะบอกให้ฉันรู้ว่า ฉันผ่านขอสอบปลายภาคของฉันหรือปล่าว

คำว่า Dairy หมายถึง ผลิตภัณท์ ที่เกี่ยวกับนม เอ่อแล้วอะไรบ้างหละที่เกี่ยวกับนม เช่น นม เนย ชีส โยเกิร์ต นั้นเอง พวกเหล่านี้ถือว่าจัดอยู่ในคำว่า Dairy

ลองมายกตัวอย่างในประโยค กันดีกว่าจะได้เห็นภาพมากขึ้น

Can I get 1 Tom-Yum Kung,less dairy please 
ผมขอต้มยำกุ้ง1ที่ใส่นมน้อยๆ(อ่าๆๆ อย่าเพิ่ง งง ถึงต้มยำเราจะไม่ใส่นม แต่เราใส่ คาเนชั่นใช่ไหมครับ นั้นหละครับ มันถือเป็นผลิตภัณท์ของนม เช่นกันคือว่า คำว่า Dairy ครอบคลุม)

มาดูอีกคำกัน
I use English language every day.It's become part of my daily life
ผมใช้ภาษาอังกฤษทุกวันจนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันผมไปแล้ว.

ลองเอาไปใช้ดูนะครับ

คำที่ใช้บ่งบอกตำแหน่งประกอบด้วย This, That, These และ Those โดยเราจะแบ่งคำเหล่านี้
ออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน คือ This และ That, These และ Those

เรามาดูทีละคู่

1. This และ That (นี่ และ นั่น)
เราจะใช้คำว่า This ในการบ่งบอกถึงสิ่งที่เป็นเอกพจน์ ที่อยู่ใกล้ผู้พูด หรืออยู่ที่ผู้พูด เช่น This is a pencil.
(นี่คือดินสอแท่งหนึ่ง) แสดงว่าดินสอแท่งนี้จะต้องอยู่ใกล้ผู้พูด หรืออยู่ที่ผู้พูดเลย ในทางตรงกันข้ามกัน
เมื่อเราต้องการพูดถึงสิ่งที่เป็นเอกพจน์ที่อยู่ไกลผู้พูดออกไป เราจะใช้คำว่า That แทน เช่น That car is mine
(รถคันนั่นเป็นของผม)

2. These และ Those (พวกนี้ หรือเหล่านี้ และ เหล่านั้น หรือพวกนั้น)
สำหรับการบ่งบอกถึงสิ่งที่เป็นพหูพจน์ หรือสิ่งที่มีจำนวนมากกว่า 1 ขึ้นไป เราจะใช้คำว่า These และ Those แทน
เราจะใช้ These ในการบ่งบอกถึงสิ่งที่เป็นพหูพจน์ที่อยู่ใกล้ผู้พูด หรืออยู่ที่ผู้พูด เช่น These are my parents.
(นี้คือพ่อแม่ของผมครับ) และในทำนองเดียวกัน เราจะใช้คำว่า Those ในการแทนถึงสิ่งที่เป็นพหูพจน์
ที่อยู่ไกลผู้พูด เช่น Those are my co-workers. (พวกนั้นเป็นเพื่อนรวมงานของผม)

เราลองนำเจ้า คำว่า cheap มาใส่ในประโยคกันดีกว่า

Did you know?That store over there having a big sale right now ,everything is so cheap.

คุณรู้ยัง?ร้านค้าตรงโน้นเขากำลังลดราคาสินค้าอยู่ในขณะนี้ทุกๆอย่างถูกมาก.

แต่ คำว่า Cheap ก็ใช้เป็นคำเหน็บแนมได้เช่นกัน ถ้าหากเรานำมาใช้เหน็บแนม ก็จะแปลว่า ขี้งก นั้น เอง 
ยกตัวอย่างนะครับ 
Tom:Our son is graduating so I'm thinking I should buy him a second handed car.
Tom's wife:Oh dear,you are so cheap! Your son is graduating at least buy him a new one.

ทอม:ลูกของกำลังจะจบการศึกษาดังนั้นผมกำลังคิดว่าผมควรซื้อรถมือสองให้เขา
ภรรยาของทอม:โธ่ คุณก็,คุณนี้ขี้งกจังเลยนะค่ะ.ลูกเรากำลังเรียนจบอย่างน้อยซื้อคันใหม่ให้เขาสิ

โครงสร้างของประโยค ก็จะมีอยู่ว่า 
Subject + Verb ช่อง2

พอเรามีโครงสร้างแล้วทีนี้เรามาลองแต่งประโยคดูบ้างนะครับ

I lived here 7 years ago
ฉันอยู่ที่นี้เมื่อ7ปีแล้ว

She cried after watching that movie
หล่อนร้องไห้หลังจากดูหนังเรื่องนั้น

กริยาบางตัวจะเปลี่ยนรูป บางตัวจะคงรูปอ่านเสียงไม่เหมือนเดิม บางตัวจะคงรูปเดิมอ่านเสียงเดิม และบางตัวจะเติม ed ต่อท้าย

เราอาจจะต้องฝึกเรื่อง การเปลี่ยน กิริยาจาก ช่องที่ 1เป็นช่องที่2นิดนึง เพื่อที่จะใช้ให้ถูกว่าคำไหนสะกดอย่างไร

แต่ มันไม่ยากเกินความสามารถเรา หรอกครับ ^^

ตัวอย่างประโยค
I walk to school ฉันเดินไปโรงเรียน
He eats very quick เขาผู้ชายกินเร็วมาก
She works at Thai restaurant หล่อนทำงานที่ร้านอาหารไทย

เพื่อนๆ ลองแต่งประโยค ดูนะครับ ไม่ยาก อย่างที่คิด

 

หากเพื่อนๆคนไหนสนใจเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่  Facebook ของทาง สถาบันนะครับ 

https://www.facebook.com/easyandsimpleenglish