Our topic for today is why can’t I speak English fluently?
หัวข้อประจำวันนี้นะครับ ก็คือ ทำไมฉันถึงยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักที? ถึงแม้ว่าจะเรียนมาตั้งนานแล้วก็ตาม
There are three main reasons why most of us can’t speak English. มีทั้งหมดสามสาเหตุหลักๆที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้นะครับ ว่าทำไมเราถึงพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักทีทั้งๆที่เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กๆ สามสาเหตุนี้เป็นตัวการหลักที่ส่งผลให้เราเนี่ย พูดไม่ได้สักที
First It’s the belief. We believe that Grammar is everything.
ความเชื่อที่ถูกปลูกฝั่งมาว่า ไวยากรณ์คือทุกอย่าง เมื่อเราต้องพูดภาษาอังกฤษปุ๊ป เราจะคิดก่อนว่า ฉันไม่แม่น tense ฉันพูดไม่ได้แน่เลย ฉันไม่รู้ว่าฉันจะต้องพูดอะไร พูดยังไง แต่มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดหรอกครับ เราจะต้องหลุดออกจากห้วงของคำว่า หลักไวยากรณ์ให้ได้ ทีนี้มาลองดูตัวเราบ้าง ตัวเรา พูดไทยได้ อ่านได้เขียนได้ ใช้ภาษาไทยได้อย่างชำนาญในชีวิตประวันของตัวเราเอง แต่ลองมองย้อนกลับไปว่าเราแม่นไวยากรณ์ไทยมากน้อยแค่ไหน
ตัวอย่างเช่น ตอนนี้เลยผมถามคนที่กำลังดูlive สดอยู่ ณ ตอนนี้ ที่สามารถ ท่อง ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูกได้ครบบ้าง
บางคนอาจจะบอกว่าท่องได้ งั้นลองลึกลงไปอีกนิดนึง อักษร 3 เสียงของ ไทย สูง กลาง ต่ำ ตัวไหนอยู่ในระดับเสียงไหนบ้าง โดยประมาณนี้ สังเกตุได้ว่า เราเองก็ไม่ได้แม่น ไวยากรณ์ไทยขนาดนั้น แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้ทำให้เรา ไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ พูดๆง่ายก็คือ ต่อให้ไม่เก่งหลักภาษาไทย เราก็สามารถพูดหรือใช้ภาษาไทยได้อยู่ดี
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ไวยากรณ์ ไม่ใช่ทุกอย่าง ของภาษา ไม่ต้องมุ่งเน้นเรื่องไวยากรณ์มากขนาดนั้น
ผมไม่ได้บอกว่า ไวยากรณ์ ไม่สำคัญ แต่มันไม่ใช่ทุกอย่างของภาษา มันเป็นส่วนนึงของภาษา
เวลาเราฝึกภาษา ควรฝึกภาษาแบบเป็นการซึมซับ มากกว่าการท่องจำ เมื่อเราได้ยินประโยคอะไรมา ให้พยายามซึมซับประโยคเหล่านั้นไปด้วยและนำไปประยุกต์ใช้
ตัวอย่างการประยุกต์ประโยคนะครับ
ฉันตื่นนอนตอน7โมงเช้าทุกวัน
ฉันไม่ตื่นนอนตอน7โมงเช้าทุกวัน
ฉันไม่รู้ ฉันไม่ได้ตื่นนอนตอน7โมงเช้าทุกวัน
เรามักจะไม่ประยุกต์ พอเราเจอประโยคที่แปลก ไม่ค่อยได้ใช้ ไม่ค่อยได้พูด เรามักจะมีคำตอบ ที่เราใช้เสมอ เลย คือ ไม่รู้ครับ/ไม่รู้ค่ะ แต่นี่แหละ คือสิ่งที่ทำให้เราไม่สามารถพัฒนาไปสู่ขั้นถัดไปได้ เพราะเรากลัว และ ปฏิเสธที่จะคิดต่อ
และแน่นอนการฝึกภาษาจะต้องใช้เวลา เราต้องให้เวลากับมัน เราไม่สามารถเก่งภาษาได้ข้ามวันข้ามคืน ทุกคนสามารถพัฒนา ภาษาได้ครับ แต่เราก็ฝึกฝน และทุ่มเท ไม่ใช่แค่ ฉันเรียนแล้วฉันก็ไม่สักที แต่ฉันเองก็ไม่เคยใส่ใจกับมัน อย่าลืมครับ เรากำลังฝึกอีก 1 ภาษา ที่ไม่ใช่ภาษาของเรา ถ้าไม่ทุ่มเทให้มัน มันก็ยากครับที่จะทำได้
Second We don’t care about proper pronunciation. เราไม่ใส่ใจกับการออกเสียงที่ถูกต้อง
เรามักจะมองว่า การออกเสียงไม่ได้เป็นเรื่องจำเป็น สำหรับเรา เพราะ บางที มันยาก ก็เลยปฏิเสธ ที่จะฝึกมัน
เรามองข้ามความเป็นจริงว่า ภาษาไทยกับ ภาษาอังกฤษไม่เหมือนกัน ใช่ว่า เสียงของพยัญชนะที่มีในภาษาไทย จะต้องมีเสียงนั้นในภาษาอังกฤษด้วย มีหลากหลายเสียงที่ไม่เหมือนกัน เช่น เสียง Th ตัว g j เสียง L ลงท้ายคำ เป็นต้น
With month thor thank you Thursday Jack gym gin game go
ball wall will bill
East eat is rise rice right date dead death with which wish
เห็นไหมว่า การออกเสียงเป็นเรื่องสำคัญในการฝึกภาษา
We’re afraid to make mistakes. เรากลัวที่จะผิด
ในการฝึกภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาไหนในโลกก็ตาม เราจะต้องลองผิดลองถูกเพื่อที่จะพัฒนาภาษาอยู่แล้ว ด้วยความกลัวเหล่านี้ ทำให้เราไม่สามารถฝึกภาษาได้ ให้เราหัดเรียนรู้จากความผิดพล้าดของตัวเอง เมื่อใช้ภาษาแล้วมีใครมาแก้ให้เรา อย่าอาย แต่จงขอบคุณเขาที่เขาช่วยเหลือเรา คอยให้กำลังใจตัวเองว่า ฉันกำลังเรียนภาษาที่สองอยู่ มันเป็นปกติอยู่แล้วที่ฉันอาจจะพูดผิดไปบ้าง อย่าไปเอาสิ่งเหล่านี้มาบั่นทอนจิตใจตัวเอง สนุกและหัวเราะไปกับมัน ดีกว่า มานั่งเครียดกับมัน เพราะมันจะทำให้เราเกลียดภาษา และไม่กล้าพูดต่อหน้าคนอื่น มันคือ เรื่องจริงที่เราจะต้องยอมรับให้ได้ว่า เราไม่เก่ง เรากำลังฝึกอยู่ เราต้องพัฒนา
<< Back