easyenglish

เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว

ภาษาอังกฤษง่ายกว่าที่คุณคิด ...

บทเรียนฟรี / FREE LESSON






Aren’t you hungry? Yes OR No?

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้พบกันอีกแล้ว เป็นยังไงบ้างครับ หลังปีใหม่มานี้พบแต่เรื่องดีๆกันใช่ไหมเอ่ย ยังไงก็ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ และมีสุขภาพที่แข็งแรงกันอีกครั้งนะครับ และแน่นอนว่าวันนี้ เราก็มีเรื่องดีๆมาฝากทุกท่านให้เรียนรู้อีกเช่นเคยนะครับ โดยวันนี้พูดถึงเรื่องที่ดูเหมือนจะง่าย แต่อันที่จริงแล้วสับสนไม่ใช่น้อย นั่นคือเรื่องของการตอบคำถาม Yes/No questions ในภาษาอังกฤษนั่นเองครับ

Yes / No questions

คือคำถามในลักษณะที่ต้องการคำตอบว่า ใช่หรือไม่ใช่ มีลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดๆเลยก็คือเวลาที่เป็นคำถามลักษณะนี้ ท้ายประโยคจะมีการยกเสียงขึ้นเป็นเสียงสูงขึ้นกว่าเดิม คล้ายๆกับเวลาที่เราเติมไม้ตรีที่พยางค์สุดท้าย เช่น

Do you like pop music?                  -ดู ยู ไลคฺ พ็อป มิว ซิ๊ค

Are you hungry?                              -อารฺ ยู ฮัง กริ๊

Is she a doctor?                                -อิส ชี อะ ด็อค เท๊อะ

ซึ่งแน่นอนว่าการตอบ ก็ง่ายๆ คือ Yes แปลว่า ใช่ ถูกต้องตามที่ถาม และ No ไม่ถูกต้องตามที่ถาม แบบนี้

Do you like pop music?                  -Yes, I do             ใช่ ฉันชอบ          No, I don’t              ไม่ ฉันไม่ชอบ

Are you hungry?                              -Yes, I am            ใช่ ฉันหิว            No, I am not            ไม่ ฉันไม่หิว

Is she a doctor?                                -Yes, she is          ใช่ เธอเป็น (หมอ)No, she is not      ไม่ เธอไม่ได้เป็น (หมอ)

แต่ในหลายๆครั้ง เวลาที่เราได้ยินคนพูดภาษาอังกฤษจริงๆ ไม่ว่าจากชาวไทย หรือชาวต่างชาติที่อยู่รอบตัวเราก็ดี บางครั้งเรากลับได้ยินประโยคคำถามแบบ Yes / No questions ที่ต่างออกไป ไม่เหมือนเดิมเท่าไหร่นัก เพราะ บางครั้ง คำถามเหล่านั้น เป็นคำถามที่อยู่ในรูปปฏิเสธด้วย เช่น

-              Don’t you like pop music?

-              Aren’t you hungry?

-              Isn’t she a doctor?

อ้าว แล้วถ้าแบบนี้จะต้องตอบอย่างไรดีล่ะ หลายๆคนเมื่อเจอคำถามในลักษณะนี้ จะสามารถแปลได้ค่อนข้างถูกเลยทีเดียว แต่กลับตอบไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่ และก่อให้เกิดความงุนงงไม่น้อยนะครับ ทั้งนี้ก็เพราะว่าเราเป็นคนไทย และยึดติด หรือเคยชินกับวิธีการพูดแบบไทยๆนั่นเอง หากยกตัวอย่างการตอบแบบผิดๆ ที่คนไทยคุ้นชินกัน ก็อย่างเช่น

Don’t you like pop music?            -              Yes (ใช่ ฉันไม่ชอบเพลงป๊อป)

เธอไม่ชอบเพลงป๊อปใช่ไหม          -               No (ไม่ใช่ ฉันชอบเพลงป๊อป)

Aren’t you hungry?                        -              Yes (ใช่ ฉันไม่หิว)

เธอไม่หิวใช่ไหม                             -               No (ไม่ใช่ ฉันหิว)

Isn’t she a doctor?                          -              Yes (ใช่ เธอไม่ได้เป็นหมอ)

เธอไม่ได้เป็นหมอใช่ไหม               -               No (ไม่ใช่ เธอเป็นหมอ)

ทั้งๆที่ดูคำแปล แล้วน่าจะถูก แต่ทำไมตอบผิด ก็เพราะอย่างที่บอกว่าลักษณะการตอบแบบนี้ถือว่าผิดหลักไวยากรณ์และอาจก่อให้เกิดความสับสนได้มากนะครับ เพราะว่าแม้จะถูกตามหลักการพูดของไทย แต่ไม่ถูกตามหลักการพูดของภาษาอังกฤษนั่นเอง เนื่องจากในภาษาอังกฤษ เวลาที่ตอบ Yes หรือ No นั้น มันจะต้องตามด้วยรูปประโยคบอกเล่า/ปฏิเสธ อย่างชัดเจนเคร่งครัด ตามกฏไวยากรณ์ ดังนั้น เวลาที่ตอบ Yes มันจะหมายถึง “ใช่ ประธานมีลักษณะแบบนั้น” และ No “ไม่ใช่ ประธานไม่ได้มีลักษณะแบบนั้น” เสมอๆ ดังนี้ครับ

Don’t you like pop music?            -              Yes, I do (ใช่ ฉันชอบเพลงป๊อป)

เธอไม่ชอบเพลงป๊อปใช่ไหม          -               No, I don’t (ไม่ใช่ ฉันไม่ชอบเพลงป๊อป)

Aren’t you hungry?                        -              Yes, I am (ใช่ ฉันหิว)

เธอไม่หิวใช่ไหม                             -               No, I am not (ไม่ใช่ ฉันไม่หิว)

Isn’t she a doctor?                          -              Yes, she is (ใช่ เธอเป็นหมอ)

เธอไม่ได้เป็นหมอใช่ไหม                -               No, is not (ไม่ใช่ เธอไม่ได้เป็นหมอ)

ดังนั้น แม้ว่าคำถามจะมาในรูปของปฏิเสธก็ตาม แต่เวลาตอบ การยึดหลัก Yes/ No ก็ยังคงเหมือนประโยคคำถาม Yes/No ทั่วๆไป ธรรมดาๆ เสมอนะครับ ถ้าหากไม่มั่นใจจริงๆ เวลาที่ตอบ หรือกลัวจะงง ว่าถ้าแปลประโยคคำถามออกมาเป็นลักษณะปฏิเสธ (เหมืนในประโยคตัวอย่าง) แล้วจะสับสนทำให้ตอบผิดพลาด ก็ให้แปลประโยคคำถามที่อยู่ในรูปปฏิเสธนั้นไปตรงๆเหมือนประโยคคำถามทั่วไป จะได้ไม่พลาดนะครับ เช่นหากถามว่า Aren’t you hungry? ก็ไม่ต้องแปลว่า “เธอไม่หิวใช่ไหม” หรือ “คุณไม่หิวเหรอ” แต่ให้แปลไปเลยว่า “เธอหิวไหม” หรือ “คุณหิวไหม” จะช่วยได้มากนะครับ

วันนี้หมดเวลาเสียแล้ว หวังว่าจะช่วยให้เข้าใจคำถาม Yes/No ในลักษระที่เป็นปฏิเสธกันมากขึ้น และสามารถตอบได้ถูกต้อง และลดความมึนงงในการสนทนาได้มากขึ้นด้วยนะครับ วันนี้ลาไปก่อน คราวหน้าพบกันใหม่ อย่าลืมทบทวนบทเรียนบ่อยๆ หรือฝึกฝนด้วยการพูด/แต่งประโนคง่ายๆตามบทเรียนที่ได้เรียนไปแม้แค่วันละนิดก็ยังดี สวัสดีครับ

 

<< Back

เกร็ดความรู้


สวัสดครับนักเรียนภาษาอังกฤษทั้งหลาย  ไปลองฟังกันเลย ว่าสำนวนภาษาอังกฤษที่จะสอนวันนี้คืออะไร 
 
สำนวนที่จะสอนวันนี้นะครับคือสำนวนที่เอาไว้ใช้เวลาเราบอกว่า ทำสิ่งนี้แล้วมันได้ผล แล้วมันก็ใช้งานได้เลยภาษาอังกฤษนั่นเองนะครับ 
 
do the trick แปลว่า ได้ผล, สำเร็จ
I turned it off and back on, and that did the trick.
ฉันปิดแล้วก็เปิดมันใหม่ แล้วมันก็ใช้ได้เลย
 
หวังว่าทุกคนจะพยายามฝึกออกเสียงตามกันนะครับ 
แล้วพบกันใหม่ รอบหน้า สวัสดีครับ
อ่านเกร็ดความรู้ย้อนหลัง