สวัสดีครับ วันนี้ต่อเนื้อจากคราวที่แล้วที่ได้ทิ้งไว้ เรายังอยู่ในการพูดคุยถึงเรื่องของ “คำพ้อง” อยู่นะครับ โดยวันนี้เรามาเรียนรู้ Homograph ในภาษาอังกฤษ กัน
Homograph – คำพ้องรูป คือคำที่เขียนเหมือนกัน แต่ว่ามีความหมายไม่เหมือนกัน ทั้งนี้อาจจะมีความหมายไม่เหมือนกันเพราะมีหน้าที่ของคำที่ไม่เหมือนกัน หรือแม้กระทั่งคำที่มีหน้าที่คำเหมือนกัน แต่มีความหมายที่ไม่เหมือนกันไปคนละทิศละทางเลยก็ได้ ซึ่งกลุ่มคำกลุ่มนี้เอง ที่เป็นตัวที่ทำให้หลายๆคนสับสนเวลาที่เรียนภาษาอังกฤษ แล้วเจอกับคำศัพท์ใหม่ๆ ว่า “เอ... ทำไมคำแต่ละคำถึงมีความหมายหลากหลายจังนะ” เพราะส่วนมากนอกจากจะเขียนเหมือนกัน ยังอ่านเหมือนกันด้วย ตัวอย่างได้แก่
Content – พึงพอใจ และ Content – เนื้อหา
He was very content when he saw that his mother had recovered from the illness that was with her for 40 years.
เขารู้สึกพอใจมากเมื่อได้เห็นว่าแม่ของเขาหายป่วยจากโรคที่เป็นติดตัวมาถึง 40 ปี
The content of the movie is filled with violence and strong language. It’s not for kids.
เนื้อหาของหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความรุนแรงและภาษาที่หยาบคาย มันไม่เหมาะกับเด็กเลย
Desert – ทะเลทราย และ Desert – ทอดทิ้ง
Sahara is perhaps the biggest desert in the world. It is about 9.2 million square meters!
ทะเลทราบซาฮาราเนี่ย น่าจะเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยนะ ขนาดประมาณ 9.2 ล้านตารางกิโลเมตรแน่ะ!
I saw the news last night talking about a crime in a deserted hospital. It was very horrific.
ฉันดูข่าวเมื่อคืนเรื่องอาชญกรรมในโรงพยาบาลร้าง(ถูกทอดทิ้ง) มันน่ากลัวมากเลย
Number – ตัวเลข และ Number – ชามากขึ้น
My favorite number is 9. It sounds like the word ‘to step forward’ or ‘to progress’ in Thai.
ตัวเลขที่ฉันชอบที่สุดคือเลขเก้า เพราะมันฟังเหมือนคำว่า ‘ก้าวไปข้างหน้า’ หรือ ‘(เจริญ)ก้าวหน้า’ ในภาษาไทย
After an hour of sitting on the floor, my legs are getting number and number every minute.
หลังจากที่นั่งที่พื้นมาชั่วโมงนึง ขาฉันก็ชาขึ้น ชาขึ้นทุกนาทีเลย
จากตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า บางคำ เช่น Content หรือ Desert นั้น เป็นคำพ้องรูปที่นอกจากจะเขียนเหมือนกัน ยังอ่านเหมือนกันเป๊ะอีกด้วย (อ่านว่า คอน-เทน/ท/ และ ดี-เซิท ตามลำดับ) แต่บางคำเช่นคำว่า Number ที่ยกมา แม้จะเขียนเหมือนกัน แต่อ่านไม่เหมือนกัน คืออ่านว่า นัม-เบอะ และ นัม -เมอะ แสดงให้เห็นว่า คำพ้องรูปเหล่านี้ บางคำอาจจะมีเสียงอ่านที่ไม่เหมือนกัน ก็ได้เช่นเดียวกันนะครับ ตัวอย่างของคำพ้องรูปไม่พ้องเสียง ที่ชัดเจนอีกคำได้แก่
Minute – นาที และ Minute – เล็ก จิ๋ว
There are 60 minutes in an hour, 24 hours in a day and seven days in a week. In total, there are 10,080 minutes in a week.
หนึ่งชม. มี 60 นาที วันหนึ่งมี 24 ชม. สัปดาห์หนึ่งมี 7 วัน รวมแล้ว หนึ่งสัปดาห์มีเวลา 10,080 นาที
My boss is very neat. He is very observant when it comes to detecting abnormalities, even in very minute details.
เจ้านายฉันเป็นคนละเอียดละออมากๆ เขาตาไวมากเชียวละเวลาที่มองหาข้อผิดพลาด แม้กระทั่งในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก็ตาม
โดย Minute ที่แปลว่านาทีนั้น อ่านว่า มิ-นิท และ ที่แปลว่า เล็ก จิ๋วนั้น อ่านว่า มาย-นิว/ท/ นั่นเองครับ
ดังนั้น เวลาที่เจอคำๆหนึ่ง ที่มีความหมายมากกว่าหนึ่งความหมาย อาจจะต้องลองดูดีๆนะครับ เพราะแม้ว่าจะเป็น Homograph กันก็จริง แต่อาจจะออกเสียงไปคนละทิศละทางเลยก็ได้ เดี๋ยวคราวหน้าเรามาปิดท้ายกันด้วยเรื่องของคำพ้องเสียง หรือที่เรียกว่า Homophone กันครับ วันนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ
<< Back