Question tag
สวัสดีครับ วันนี้พบกันอีกครั้งหนึ่งแล้ว ช่วงเวลาที่เขียนอยู่นี่ใกล้จะถึงเวลาปีใหม่เข้าไปทุกขณะ อากาศค่อยๆเย็นลง และฝนที่ขาดช่วง(ไปเสียที) น่าจะทำให้ช่วงนี้หลายๆคนตื้นเต้นที่จะได้ขึ้นปีใหม่ และมีความสุขกับสภาพอากาศพอสมควรนะครับ แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมดูแฃสุขภาพกันสักนิด เดี๋ยวจะป่วยก่อนไปเที่ยวต้องนอนเหี่ยวกันอยู่ที่บ้านแบบผิดแผนไม่คุ้มกันนะครับ
วันนี้มีเรื่องมาฝาก เป็นเกร็ดไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่องหนึ่งที่หลายๆคนอาจจะลืมไปแล้ว หลายคนยังไม่ลืม แต่ก็ยังไม่ใช้ เพราะอาจจะไม่ทราบว่าควรใช้เมื่อไหร่ อย่างไร กลัวว่าจะใช้ผิดพลาด ซึ่งเกร็ดไวยากรณ์เรื่องที่ว่านี้ก็คือ Question Tag นั่นเองครับ
โครงสร้างของ Question Tag
__________Statement__________, |
Question Tag? |
ก่อนอื่นที่จะพูดถึงวิธีการใช้ ขอทำการทบทวนเรื่องของการแต่งประโยค หรือโครงสร้างของประโยคที่เรียกว่า Question Tag นี้ก่อนกันสักนิดนะครับ ดังโครงสร้างที่ปรากฏด้านบน ก็คือ Question Tag ประกอบไปด้วย ส่วนที่เป็น Statement หรือตัวประโยคเนื้อความ แล้วจึงห้อยท้ายด้วย Tag ที่มีลักษณะเป็นคำถามด้านหลัง ดังนี้
Mr. Anderson and his family are on vacation to Paris, Aren’t they?
คุณแอนเดอร์สันและครอบครัวไปเที่ยวพักร้อนที่ปารีส ใช่ไหม
You don’t really believe that on every Christmas children receive presents from Santa, Do you?
นายไม่ได้เชื่อจริงๆว่าคริสต์มาสทุกๆปี เด็กๆจะได้รับของขวัญจากซานตา ใช่ไหม
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า มีลักษระการเขียนที่แยกออกเป็นสองแบบ คือ 1. ประโยคต้นเป็นประโยคบอกเล่า แทกเป็นรูปปฏิเสธ และ 2 . ประโยคต้นเป็นประโยคปฏิเสธ แทกเป็นรุปบอกเล่า *จะต้องเป็นลักษณะนี้เสมอ* นะครับไม่สามารถเป็น บอกเล่า + บอกเล่า หรือ ปฏิเสธ + ปฏิเสธได้
โดยส่วนของ tag คำถามที่เรานำมาต่อในตอนท้ายของประโยคต้น(คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค หรือ comma นั่นเอง)นั้น ประกอบไปด้วย [กิริยาช่วย(ตาม Tense ที่ประโยคต้นนั้นๆ ใช้) + ประธาน(ในรูปของสรรพนาม)] ซึ่งหลังกิริยาช่วยนั้นๆ จะเติม not เข้าไปด้วยในกรณีที่เป็นรูปปฏิเสธ
ดังนี้
He loves chocolate very much, doesn’t he?
เขาชอบช็อคโกแล็ตมากเลย ใช่ไหม
เนื่องจากประโยคต้นแต่งด้วย Present Simple Tense ตัวกิริยาช่วยในส่วน tag จึงต้องใช้ กิริยาช่วยจาก Present Simple Tense เช่นเดียวกันได้แก่ Do/Does ในกรณีนี้ใช้ Does เพราะ ประธานเป็น he เติม not ให้เป็นรูปปฏิเสธเพราะประโยคต้นเป็นรูปบอกเล่า
They won’t go to Fiji next Monday after watching next week weather forecast, will they?
พวกเขาจะไปฟิจิวันจันทร์หน้าหลังจากที่ได้ฟังพยากรณ์อากาศของสัปดาห์หน้า ใช่ไหม
ประโยคแต่งด้วย Future Simple Tense จึงต้องใช้กิริยาช่วยของ Future Simple Tense เช่นกันได้แก่ Will ไม่เติม not เพราะประโยคต้นเป็นรูปปฏิเสธอยู่แล้ว
เมื่อเข้าใจโครงสร้างการแต่งประโยคให้เป็น Question Tag แบบนี้แล้ว ทีนี้คำถามที่หลายๆคนมีก็คือ “แล้วทำไมเราจึงจะต้องใช้ Question Tag” “แล้วมันต่างกับ Question ธรรมดาๆตรงไหน” คำตอบก็คือว่า ลักษณะของการพูดด้วยประโยคคำถามทั่วไป สื่อความหมาย หรือให้ความรู้สึกแก่ผู้ฟังว่าผู้ถาม “สงสัย และใคร่รู้ในคำตอบของคำถามนั้นๆจริงๆ โดยไม่ทราบข้อมูลอื่นใดมาก่อน” พุดง่ายๆคือถามด้วยความซื่อจริงๆ นั่นเอง ในขณะที่การใช้ Question Tag หมายถึงว่า ผู้ถาม “มีข้อมูลบางอย่างอยู่ในใจอยู่แล้ว แต่ต้องการถามเพื่อยืนยันความถูกต้องในสิ่งที่ตนเองทราบ/เข้าใจ” ว่าง่ายๆคือ ถามเพื่อความชัวร์นั่นเอง ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้
Is he going to the market this weekend?
เขาจะไปตลาดในช่วงสุดสัปดาห์นี้ใช่ไหม (ผู้ถามไม่ทราบจริงๆว่าเขาจะไปหรือไม่ จึงต้องการถาม)
He is going to the market this weekend, isn’t he?
เขาจะไปตลาดในช่วงสุดสัปดาห์นี้นี่ ใช่ไหม (ผุ้ถามเข้าใจว่าเขาจะไปตลาดสุดสัปดาห์นี้ แต่เกิดไม่แน่ใจจึงถามย้ำเพื่อยืนยัน)
Silvia doesn’t like to eat vanilla ice cream, does she?
ซิลเวียไม่ชอบกินไอสกรีมวานิลลานี่ ใช่ไหม (ผู้ถามเข้าใจอยู่แล้วว่าวิลเวียไม่ชอบทานไอสกรีมวานิลลา แต่ถามเพื่อความแน่ใจ)
Does Silvia like to eat vanilla ice cream?
ซิลเวียชอบกินไอสกรีมวานิลลาใช่ไหม (ผู้ถามไม่ทราบว่าซิลเวียชอบกินไอสกรีมวานิลลาหรือไม่มาก่อน จึงถาม)
จากตัวอย่างเหล่านี้ หวังว่าจะช่วยให้หลายๆคนเข้าใจ ถึงการใช้ Question Tag มากขึ้นนะครับ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะการที่สามารถถามด้วย Question Tag หรือเข้าใจประโยคคำถามในลักษณะ Question Tag ค่อนข้างที่จะสำคัญ เนื่องจากเป็นเกร็ดไวยากรณ์หนึ่งที่นิยมใช้ในชีวิตประจำวันมากทีเดียว วันนี้ลาไปก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ
<< Back