Big numbers” คำบอกจำนวนที่มีในภาษาไทย ที่ภาษาอังกฤษต้องอิจฉา
สวัสดีครับทุกท่าน ภาษาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เป็นเครื่องมีสะท้อนความคิด และเป็นผลผลิตของวัฒนธรรม การที่เราศึกษาภาษานั้น หากจะให้ได้ผลดี เราจำเป็นที่จะต้องเข้าใจ หรือพยายามเข้าใจกระบวนความคิด มุมมอง และวัฒนธรรมที่ครอบคลุมภาษานั้นๆ เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้ภาษาหนึ่งๆ มีเอกลักษณ์โดเด่นขึ้นมาจากภาษาอื่นๆนั่นเองครับ ซึ่งวันนี้จากหัวข้อด้านบน ผมก็จะขอพูดถึงเรื่องความแตกต่าง หรือเอกลักษณ์ของภาษาที่ว่านี้ระหว่างภาษาไทย กับภาษาอังกฤษ ในเรื่องราวของตัวเลข คำบอกจำนวนนั่นเอง
อย่างที่หลายท่านอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วนะครับ ว่าคำที่ใช้กล่าวถึง “หน่วย” หรือ “หลัก” ของจำนวนที่มาก ที่เป็น“คำที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง” ในภาษาไทยนั้น มีมากมาย แต่ในภาษาอังกฤษนั้นมีไม่มากเท่า หากเปรียบเทียบกันก็จะเห็นได้ดังนี้
Thai |
English |
สิบ |
- |
ร้อย |
Hundred |
พัน |
Thousand |
หมื่น |
- |
แสน |
- |
ล้าน |
Million |
สังเกตว่าผมไม่นับ “สิบ” “หมื่น” และ “แสน” เพราะไม่มีคำที่สมบูรณ์ที่หมายถึงหลักนั้นๆด้วยตนเองแต่เกิดจากการประสมกันของคำอื่น เช่น หลักหมื่น ในภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า “ten thousand” หรือ “สิบพัน” หลักแสน ในภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า “hundred thousand” หรือ “ร้อยพัน” เป็นต้น ในขณะที่หลักสิบนั้น คำว่า “ten” ไม่ใช่คำบอกหน่วย หรือบอกหลักว่าเป็นหลักสิบจริงๆ ดังจะเห็นได้จากที่เมื่อนับไปถึงจำนวน “20” “30” ตลอดจนถึง “90” จะใช้เป็นลักษณะ “-ty” มาช่วย ได้เป็น “twenty ” “thirty” และ “ninety” ตามลำดับดังนี้ นี่เองคือความจำกัดของภาษาอังกฤษที่น่าจะต้องอิจฉาภาษาไทย เพราะภาษาไทยมีคำที่ใช้เรียกหน่วย หรือหลักของตัวเลขอย่างละเอียดครบถ้วนที่ใช้และเข้าใจง่าย ในชีวิตประจำวันเนื่องจากไม่ต้องมาประสมหลักเข้าด้วยกันเพื่อชดเชยคำที่ไม่มีอยู่ในภาษาอังกฤษ
แต่นี่ไม่ใช่ทั้งหมดครับ และไม่ใช่ประเด็นวันนี้ที่ผมอยากจะนำเสนอ ประเด็นที่ผมอยากจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ เนื่องจากผลของการไม่มีคำบอกหลักที่เป็น “คำที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง” ของภาษาอังกฤษอย่างที่กล่าวไปนั้นเอง ทำให้ในภาษาอังกฤษ ไม่มีคำที่บอกลักษณะอันเป็น “พหูพจน์” ของหน่วย หรือหลักตัวเลขนั้นๆด้วย
ในภาษาไทยนั้น การพูดถึงลักษณะที่เป็นพหูพจน์ของหน่วย หรือหลักตัวเลขเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น
“ขนมห่อนี้ราคาหลายสิบบาท”
“เสื้อตัวนั้นซื้อมาหลายร้อยบาท”
“โทรศัพท์มือถือเดี๋ยวนี้ราคาไม่ใช่แค่หลายพันบาท แต่บางเครื่องแพงถึงหลายหมื่นบาท”
“บ้านหลังนี้ใหญ่โต คงมีราคาหลายล้านบาท หากจะผ่อนก็คงจะเดือนละหลายแสนบาทอยู่”
จะเห็นได้ว่า ประโยคเหล่านี้ประกอบไปด้วยคำว่า “หลายสิบ” “หลายร้อย” “หลายพัน” “หลายหมื่น” “หลายแสน” และ “หลายล้าน” อันเป็นรูปพหูพจน์ที่ไม่ระบุจำนวน แต่เพียงสื่อความหมายว่า มากกว่าหนึ่งสิบ หนึ่งร้อย หนึ่งพน ตลอดไปจนมากกว่า หนึ่งล้าน แต่ไม่บอกว่าเท่าไหร่ เป็นต้น ซึ่งภาษาอังกฤษนั้นมีลักษณะแบบนี้ไม่ครบ กล่าวคือจะมีก็แต่ “หลายร้อย” “หลายพัน” และ “หลายล้าน” เท่านั้น(ในกรณีนับไม่เกินล้าน) ได้แก่ “hundreds” “thousands” และ “millions” เช่น
“There are hundreds of ideas on how to conserve the energy.”
- มีไอเดียหลายร้อยไอเดียในเรื่องว่าทำอย่างไรจึงจะเป็นการประหยัดพลังงาน
“Thousands of years ago, people used to wear animals hides”
- หลายพันปีก่อน มนุษย์เคยสวมใส่หนังสัตว์มาก่อน
“Millions of people around the world use products from Apple.”
- คนหลายล้านคนทั่วโลกใช้ผลิตภัณฑ์จากบริษัทแอปเปิล
แต่ไม่มีลักษณะของ “หลายสิบ” “หลายหมื่น” และ “หลายแสน” แบบตรงๆ ทว่าจะต้องเกิดจากการประสมคำเช่นหลายหมื่น จะออกมาในลักษณะของ “tens of thousands” และหลายแสน เป็น “hundreds of thousands” ทว่าคำทั้งสองก็มีลักษณะที่เป็น expression ที่หมายถึง “จำนวนมหาศาล” ที่ไม่ได้หมายความตรงๆว่า “หลายหมื่น” หรือ “หลายแสน” ในแง่ของจำนวน 20,000 – 90,000 หรือ 200,00 – 900,000 อีกด้วย ตัวอย่างการใช้งานในทั้งสองความหมายของสองคำนี้ก็ได้แก่
“Tens of thousands of Facebook users use fake names.”
- ผู้ใช้เฟซบุ๊คจำนวนหลายหมื่นคนใช้ชื่อปลอม
- ผู้ใช้เฟซบุ๊คจำนวนมหาศาลใช้ชื่อปลอม
“He lost hundreds of thousands of dollars because of gambles.”
- เขาเสียเงินไปหลายแสนดอลลาร์จากการเล่นการพนัน
- เขาเสียเงินไปจำนวนมหาศาลจากการเล่นการพนัน
ในขณะที่ “หลายสิบ” ภาษาอังกฤษนั้น ไม่มีคำใดที่จะใช้แทนในลักษณะเดียวกันได้เลย
นี่ก็เป็นเกรโความรู้ มุมมองสนุกๆมุมหนึ่งนะครับ ที่เกิดขึ้นเมื่อเราพยายามมองหาข้อแตกต่างระหว่างภาษาสองภาษา หวังว่าเกร็ดความรู้นี้จะช่วยให้หลายๆท่านได้เกิดความเข้าใจในภาษาอังกฤษมากขึ้นในเรื่องของการบอกตัวเลขลักษณะนี้ แล้วคราวหน้าเราจะนำเกร็ดความรู้แบบนี้ดีๆมาฝากทุกท่านอีกเรื่อยๆ สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ
<< Back